วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2562



หลอดกระดาษทางเลือกใหม่ “หัวใจรักษ์โลก”
จากข้อมูลประเภทขยะทางทะเลที่พบมากที่สุดในปี 2015 ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พบว่าประเภทขยะทางทะเลมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ถุงพลาสติก 13%  หลอด 10%  ฝาขวดน้ำ 8% และภาชนะบรรจุอาหาร 8%  ในขณะเดียวกันผลรายงานของ Ocean Conservancy ได้สรุปข้อมูลปริมาณขยะตามชายหาดปี 2016 จาก 112 ประเทศทั่วโลก เผยให้เห็นว่า ขยะประเภทหลอดพลาสติกถูกจัดอันดับเป็นขยะที่พบได้มากเป็นอันดับ 7  มีจำนวน 409,087 ชิ้น หากเอาหลอดมาวางต่อกันจะเทียบเท่ากับความสูง 145 เท่าของ อาคาร One World Trade Center จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าหลอดพลาสติกเล็กๆ เหล่านี้กลายเป็นพลาสติกที่มีจำนวนมากแทบจะเทียบเท่ากับขยะประเภทถุงพลาสติกเสียด้วยซ้ำ 
ปัญหาของหลอดพลาสติกเหล่านี้นอกจากจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะสัตว์ทะเลแล้ว ปัญหาหลักของขยะพลาสติกอีกอย่างคือ การย่อยสลาย หลอดพลาสติก 1 หลอดใช้เวลาในการย่อยสลายถึง 200 ปี ในขณะที่ตัวเลขการใช้หลอดพลาสติกต่อวันนั้นสูงถึง 500 ล้านหลอดในอเมริกา และอังกฤษมีสถิติว่ามีการใช้หลอด 4.4 พันล้านหลอดต่อปี ลองคิดดูสิว่าต้องใช้เวลากี่ล้านๆ ปีในการย่อยสลายหลอดเหล่านี้
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกต่างพิจารณาการแบนหลอดพลาสติก เพราะเล็งเห็นแล้วว่าหลอดเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญในการทำลายระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม และหันไปสนับสนุนให้ใช้หลอดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น หลอดกระดาษ การบริโภคหลอดกระดาษในโลกจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกระแสการแบนหลอดพลาสติกที่เพิ่มขึ้น บวกกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการหลอดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและตระหนักถึงทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น และการที่รัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลกเริ่มหันมารณรงค์ห้ามใช้หลอดพลาสติก ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงทิศทางในเชิงบวกสำหรับตลาดหลอดกระดาษ
หลอดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นฟางไม้ไผ่ หลอดที่ย่อยสลายได้ โลหะและหลอดแก้วกำลังเข้ามาแทนที่หลอดพลาสติก เนื่องจากหลอดเหล่านั้นสร้างขยะพลาสติกจำนวนมาก และในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาร้านอาหารและกลุ่มโรงแรมต่างหันมาสนับสนุนหลอดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ล่าสุดโรงแรมชื่อดังหลายแห่งได้ออกนโยบายการเลิกใช้หลอดพลาสติก ไม่ว่าจะเป็น Four Seasons, Accor Hotels ในอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง Marriott International ในอังกฤษ รวมทั้งแบรนด์ชื่อคุ้นหูในประเทศไทยอย่าง Six Senses และ Anantara
ในส่วนของอุตสาหกรรมบริการด้านอาหารเป็นผู้บริโภคหลอดจำนวนมาก แน่นอนว่ากระแสการลดขยะพลาสติกส่งผลให้ธุรกิจนี้ตื่นตัวตอบรับกับความเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างร้านฟาสต์ฟู้ดส์ชื่อดัง McDonald’s ที่ได้ประกาศยกเลิกการใช้หลอดพลาสติก โดยเปลี่ยนจากการใช้หลอดพลาสติกเป็นหลอดกระดาษในอังกฤษ และไอร์แลนด์ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะงดใช้ทั้งหมดใน 2 ตลาดนี้ได้ภายในปี 2019
วันนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะผู้บริโภค ผู้บริการด้านอาหาร โรงแรม หรือธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลอดคงต้องนำเรื่องนี้ไปทบทวนแล้วว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะพลาสติก และหันมาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนหลอดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  


ข้อมูล      www.transparencymarketresearch.com
              www.nationalgeographic.com

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562



ที่นอนพ็อกเก็ตสปริงกับสปริงธรรมดาต่างกันอย่างไร

การนอนเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์เรา เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อนและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ การได้นอนบนเตียงที่เหมาะสมกับตนเอง และนอนหลับสนิทตลอดคืนย่อมส่งผลดีกับคุณภาพการนอนและสุขภาพร่างกาย วันนี้เราจะมาแนะนำที่นอนสปริง 2 ชนิดที่ได้รับความนิยม
1.Bonnell Spring เป็นสปริงต่อเนื่องหรือสปริงที่ยึดติดกันทั้งแผ่น โดยสปริงแบบนี้มีลักษณะเป็นทรงกรวย 2 อันต่อกัน มีคุณสมบัติพิเศษในการรองรับและกระจายน้ำหนักได้ดี และสามารถปรับระดับความแข็งแรงได้ มีความยืดหยุ่นสูง เป็นสปริงที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากมีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหลายหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เสริมเข้าไปด้านบนและล่างของที่นอน แต่ด้วยความที่เป็นสปริงที่ยึดติดกันทั้งแผ่นเวลาใช้งานจะเกิดการเหนี่ยวรั้งกัน ทำให้สปริงในจุดที่รับน้ำหนักจะดึงสปริงตัวอื่นที่อยู่รอบๆ ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนถึงคนที่นอนข้างๆ เวลามีการขยับตัว และเมื่อใช้งานไปนานๆ สปริงจะเกิดการหลวม จนเกิดเสียงเสียดสีของสปริง และไปรบกวนเมื่อเวลาใช้งานที่นอน
แต่ปัจจุบันผู้ผลิตหลายรายก็พยายามพัฒนาเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องในเรื่องนี้ อย่างการนำเอา Helical Meshing System ซึ่งเป็นระบบยึดเหนี่ยวที่เกิดจากการทอผื่นสปริงด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติที่ทันสมัย เพื่อให้เกิดแรงอัดแน่นของจุดเชื่อมต่อ จนไม่มีช่องว่างที่ทำให้เกิดเสียงรบกวนขณะนอนตลอดอายุการใช้งาน
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ผู้ผลิตได้นำมาใช้นั่นก็คือ Edge Stabilizer ระบบนี้จะช่วยเสริมความแข็งแรง ให้แก่ขอบของผืนสปริง เป็นการเพิ่มพื้นที่การนอนและยังสามารถนั่งบริเวณขอบของที่นอนได้อย่างนุ่นนวล โดยสามารถคืนตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ที่นอนทนทานไม่เสียรูปทรง โดยสรุปแล้วที่นอน Bonnell Spring เหมาะสำหรับคนที่ชอบที่นอนที่มีความกระชับและราคาย่อมเยาว์

2. Pocket Spring มีจุดเด่นตรงที่ลูกสปริงทำงานแยกกันอิสระ ยืดหยุ่นรับกับสรีระ ลักษณะลูกสปริงเป็นรูปทรงถังไวน์ ขดสปริงปลายบนเล็กกว่าขดกลางลูกสปริง ทำให้แรงกดทับลงตรงจุดแกนกลางของลูกสปริง จึงไม่จำเป็นต้องอาศัย การกระจายน้ำหนัก และขนาดลูกสปริงใหญ่กว่าสปริงชนิดเดียวกัน = 2.2มม. ลักษณะการทำงานของสปริง ลูกสปริงจะทำงานแยกอิสระจากกันขณะมีน้ำหนักกดทับ สปริงแต่ละตัวทำงานแยกอิสระจากกัน และจะรับน้ำหนักบริเวณที่ถูกกดทับเท่านั้น ไม่กระจายน้ำหนักไปยังบริเวณอื่น หากคุณมีคนนอนอยู่ข้างๆ เวลาขยับตัวหรือลุกจากที่นอน ก็จะไม่กระทบกับคนนอนข้างๆ จึงช่วยทำให้คุณและคนที่คุณรักหลับสนิทตลอดคืน ไม่ต้องหลับๆตื่นๆ เพราะถูกรบกวน จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นอนแบบ Pocket Spring คือหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับสปริง คุณสามารถเปลี่ยนทีละตัวได้ไม่ต้องเปลี่ยนสปริงทั้งหมด แต่ที่นอนแบบนี้ราคาจะสูงกว่าที่นอนแบบ Bonnell Spring

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562



ภัยเงียบ!! เลือกที่นอนผิดชีวิตเปลี่ยน
ในแต่ละวันคนเราใช้เวลาถึงหนึ่งในสามไปกับการนอนหลับ ซึ่งเป็นไปตามกลไกของร่างกายที่ต้องการให้ร่างกายได้พักฟื้นและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ การนอนหลับถือเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังและปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกาย แต่ถ้าคนเราอดนอนหรือนอนหลับไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายแย่ลงด้วย
การนอนในท่าที่ไม่ถูกต้อง หรือนอนไม่สบายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรานอนหลับไม่เพียงพอหรือที่เรียกว่านอนไม่เต็มอิ่ม และที่มากไปกว่านั้นคือยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย โดยเฉพาะอาการปวดหลังที่มีสาเหตุมาจากการเลือกที่นอนไม่เหมาะสมกับสรีระ หรือนอนที่นอนที่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป
หลายคนมองว่าอาการปวดหลังเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากการทำงาน เช่น การยกของหนัก นั่งทำงานท่าเดิมนานๆ หรือคิดว่าเกิดจากอายุที่มากขึ้น และขาดการออกกำลังกาย แต่อาการปวดหลังอาจมีสาเหตุมาจากที่นอน หากคุณตื่นมาแล้วรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว ปวดเอว ปวดหลัง นอนหลับไม่สนิท หรือหลับไม่สบาย ให้คุณลองดูที่นอนของคุณว่าแข็งหรือนุ่มเกินไปหรือไม่ ไม่ใช่ว่าตัวเองชอบนอนที่นอนแบบใด แต่ต้องดูด้วยว่าสรีระของเราเป็นอย่างไร และที่นอนที่นอนอยู่ส่งผลเสียกับสุขภาพของคุณหรือไม่มากกว่า
อาการปวดเอว ปวดหลังจากที่นอน หลายคนอาจมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ร้ายแรง กินยาแก้ปวดก็น่าจะหาย แต่ถ้าเราชะล่าใจและปล่อยไว้ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายรุนแรงกว่าที่คิด นอกจากอาการอักเสบที่กล้ามเนื้อแผ่นหลังที่สามารถเกิดขึ้นได้แล้ว หากเรานอนไม่เพียงพอยังส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง  ความจำไม่ดี หลงๆลืมๆ รู้สึกไม่สดชื่นตลอดทั้งวัน ระบบการย่อยอาหารผิดปกติ ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น สูญเสียโอกาสที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ในขณะหลับ ซึ่งโกรทฮอร์โมนจะช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์  
เห็นไหมละคะว่าเพียงแค่เลือกที่นอนไม่เหมาะสมกับสรีระของเรา สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้เยอะแยะมากมายขนาดไหน ดังนั้นรีบเชคดูนะคะว่าวันนี้ที่นอนของคุณเหมาะกับสรีระของคุณแล้วหรือยัง ง่ายๆ เพียงแค่ดูว่าเวลานอนรู้สึกหลับสบายไหม ต้องนอนพลิกตัวบ่อยๆ หรือเปล่า หรือตื่นมาตอนเช้ามีอาการปวดเมื่อย โดยเฉพาะบริเวณเอวและหลังหรือไม่ หากเป็นอย่างที่บอกไปอย่าชะล่าใจนะคะ เพราะภัยเงียบจากที่นอนกำลังรอเล่นงานคุณอยู่ค่ะ